ตู้ลำโพง Passive Speaker หรือลำโพงแบบพาสซีฟ เป็นลำโพงที่ไม่มีแอมพลิไฟเออร์ในตัว ซึ่งหมายความว่ามันต้องการแอมพลิไฟเออร์ภายนอกเพื่อขยายสัญญาณเสียงก่อนส่งไปยังลำโพง ลำโพงพาสซีฟมีความเรียบง่ายในด้านการออกแบบและมักถูกใช้ในระบบเสียงที่ต้องการการตั้งค่าและการควบคุมเสียงที่ซับซ้อน นี่คือรายละเอียดและคำแนะนำสำหรับการเลือกลำโพงแบบพาสซีฟ:

ตู้ลำโพง Passive Speaker คืออะไร

• - การออกแบบ: ลำโพงพาสซีฟมีการออกแบบที่ไม่รวมแอมพลิไฟเออร์ภายใน ดังนั้นจึงต้องใช้แอมพลิไฟเออร์ภายนอกเพื่อขยายสัญญาณเสียง.
• - การใช้งาน: มักถูกใช้ในระบบเสียงที่มีการตั้งค่าหลายๆ จุด เช่น ในโฮมเธียเตอร์, ห้องประชุม, หรือสถานที่จัดงานต่างๆ เพราะมีความยืดหยุ่นสูงในการควบคุมเสียง.

การเลือกซื้อ Passive Speaker

• - การเข้ากันได้กับแอมพลิไฟเออร์: ต้องเลือกลำโพงที่มีคุณสมบัติเข้ากันได้กับแอมพลิไฟเออร์ที่คุณมีหรือตั้งใจจะซื้อ โดยเฉพาะในเรื่องของกำลังขับและความต้านทาน (Ohms).
• - คุณภาพเสียง: ควรทดลองฟังเสียงจากลำโพงก่อนตัดสินใจซื้อเพื่อประเมินคุณภาพเสียงและความสมดุลของเสียงสูง, กลาง, และต่ำ.
• - ขนาดและกำลังเสียง: พิจารณาขนาดของลำโพงและกำลังเสียงให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่คุณต้องการใช้งาน.
• - ความทนทาน: ตรวจสอบวัสดุและการออกแบบของลำโพงเพื่อประเมินความทนทาน โดยเฉพาะหากคุณต้องการใช้งานลำโพงในสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกระแทกหรือสภาพอากาศที่รุนแรง.

ลำโพงแบบพาสซีฟเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระบบเสียงของตนเองอย่างละเอียดและมีความต้องการเฉพาะเจาะจงในการตั้งค่าเสียง แม้จะต้องการการตั้งค่าเพิ่มเติมและอุปกรณ์ภายนอก แต่ก็เสนอความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพเสียงที่สูง ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับระบบเสียงมืออาชีพและระบบโฮมเธียเตอร์ที่มีการตั้งค่าที่ซับซ้อน.