การติดตั้งระบบเสียงไม่เพียงแค่การใช้เครื่องเสียงหลักเท่านั้น ยังต้องมีการใช้งานอุปกรณ์และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นนี่คือบาง Accessories หรืออุปกรณ์เสริมที่มักจะใช้ในงานติดตั้งระบบเสียง:

1. สายเสียง (Audio Cables): สายเสียงเป็นสิ่งที่สำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องเสียงต่าง ๆ โดยมีหลายประเภท เช่น สาย RCA, สาย XLR, สาย TRS, และอื่น ๆ ซึ่งใช้สำหรับการเชื่อมต่อเครื่องเสียงระหว่างกัน เพื่อให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้ากับระบบเสียงได้อย่างเหมาะสม
2. ขาตั้งลำโพง (Speaker Stands): ใช้สำหรับยืนลำโพงขึ้นเพื่อให้สามารถวางลำโพงในตำแหน่งที่เหมาะสมและให้เสียงกระจายได้อย่างเหมาะสม
3. กล่องวางลำโพง (Speaker Mounts): ใช้สำหรับติดตั้งลำโพงบนผนังหรือเพดาน เพื่อปรับแต่งตำแหน่งและทิศทางการกระจายเสียง
4. ตู้แร็ค (Rack Cabinets): ใช้สำหรับเก็บและจัดเรียงอุปกรณ์เสียงเพื่อความสะดวกและความเป็นระเบียบในการใช้งาน
5. คลิปหรือมือจับสาย (Cable Clips or Ties): ใช้สำหรับจัดเรียงและรวมสายเสียงให้เรียบร้อยและป้องกันการขัดข้อง
6. เครื่องป้องกันไฟกระชาก (Surge Protectors): ใช้สำหรับป้องกันการกระชากไฟฟ้าที่อาจเสียบกลางเครื่องเสียงและทำให้เสียหายได้
7. อุปกรณ์เสริมการติดตั้ง (Installation Tools): เช่น เจาะ, สกรู, คีย์รับน็อต, สายลวด เป็นต้นที่ใช้ในกระบวนการติดตั้งและปรับแต่งระบบเสียง
8. ระบบการควบคุมระยะไกล (Remote Control Systems): ใช้สำหรับควบคุมการเปิด-ปิด ปรับระดับเสียง หรือการเปลี่ยนแปลงแหล่งเสียงได้จากระยะไกล
9. อุปกรณ์ควบคุมเสียงอัตโนมัติ (Automatic Sound Controllers): อุปกรณ์ที่ช่วยในการปรับแต่งเสียงอัตโนมัติ เช่น การปรับระดับเสียงในระดับคงที่หรือการปรับแต่งคุณลักษณะของเสียงโดยอัตโนมัติ

อุปกรณ์เสริมหรือ Accessories สำหรับระบบเสียงมีบทบาทสำคัญในการให้ความสำคัญและความสมบูรณ์ให้กับระบบเสียงของคุณ ซึ่งมีหลากหลายประเภทและความสำคัญที่แตกต่างกัน การเลือกใช้อุปกรณ์เสริมที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ระบบเสียงของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุดและให้ประสบการณ์การฟังที่ดีที่สุดได้